ชนะแล้วได้อะไร?

ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่พลาดแมทช์เปิดสนามระหว่าง แมนฯ ยูฯ กับ เชลซี เหตุผลง่ายๆ คือ ผมถูกบิดาบังเกิดเกล้าเทศนาสั่งสอนเรื่องการแพ้ชนะนี่ล่ะครับ ตั้งแต่สองทุ่มยันตีสอง ….. อันนี้พูดจริงๆ ใครไม่เป็นผมไม่รู้หรอกว่าความสนุกสนานตลอดหกชั่วโมงเต็มมันเป็นอย่างไร
ผมไม่ได้ทำผิดอะไรหรอกแค่พ่อผมเขามีอารมณ์จะพูดเท่านั้นเอง ส่วนตัวผมก็อยากจะลุกไปดูบอลที่ร้านหน้าปากซอยตั้งแต่สี่ทุ่มแล้ว นัดสำคัญอย่างนี้พลาดไม่ได้รู้ๆ กันอยู่ แต่จนแล้วจนรอดการภาวนาทุกๆ สิบห้านาทีของผมก็ไม่เกิดผล สงสัยจะทำบุญมาน้อยเลยต้องอดดูมันซะอย่างงั้น พอเปิดอินเตอร์เน็ตเช็คผลยิ่งเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แมนฯ ยูฯ แพ้หวิว 1-0 คา สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยรูปเกมสุดแสนจะสูสี แต่ใครเล่นดีไม่ดียังไง อัตราความมันส์ระดับไหน ขอบอกตามตรงครับว่าผมไม่รู้ (ว่าแล้วก็เช็ดน้ำตาอีกรอบกับความอับโชคของตัวเอง)
ร่ายยาวมาสามย่อหน้าเพื่อจะบอกว่าผมไม่ขอให้ความเห็นเรื่องในสนามนะครับ แต่เอามาเชื่อมกันหน่อยกับเรื่องที่ผมประสบมาตลอดหกชั่วโมง “ชนะแล้วได้อะไร – แพ้แล้วมีปัญหามั้ย” ตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจที่พ่อพูดหรอกครับแต่พอรู้ผลบอลเท่านั้นหล่ะบรรลุสัจธรรมเลย >>> อย่างนี้แปลว่าอะไรเนี่ย?? ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ว่าทำไมเข้าใจ แมนฯยูฯ มากกว่าเข้าใจพ่อ ….. ช่างมันเถอะเข้าเรื่องดีกว่า
อย่างที่รู้กันถึงผลบอลว่ามันเป็นยังไงผมไม่ขอพูดเป็นครั้งที่สองให้มันกระทบกระเทือนใจตัวเองและก็เด็กผีหลายๆ คนที่อาจจะรับไม่ได้กับผลที่เกิดขึ้น ผมยังไม่รู้นะว่าในเวบบอร์ดจะเป็นยังไง จะมีใครระบายอารมณ์กันขนาดไหน แต่เท่าที่เห็นก็มีแต่ข้อความให้กำลังใจกับอีกหนึ่งข้อความสอดแทรกในหลายๆ กระทู้จากพวกที่ปลอมตัวเข้ามา …. ช่างเขาเถอะครับ ยิ่งตอบโต้พวกนี้ยิ่งได้ใจมันก็ทำนองเดียวกับพวกโรคจิตนั่นล่ะ อย่าไปบ้าตามมันเลยนะ ขอร้อง!!!
มาพูดถึงการให้กำลังใจในอารมณ์อย่างนี้กัน ผมว่าพวกคุณๆ ที่คิดได้และทำตัวอย่างนี้น่ะน่ารักมาก มีสปิริทความเป็นนักกีฬาเต็มเปี่ยม แต่สำหรับใครบางคนซึ่งผมไม่รู้ว่าจะปรากฏในเวบบอร์ดหรือเปล่าสำหรับพวกกระทู้ด่าทีมแย่ ด่านักเตะห่วย หลายคนเคยบอกว่าติเพื่อก่อ อืมมม ….. ติให้พวกเราฟังแล้วป๋าเฟอร์กี้จะรู้มั้ยเนี่ย ??? ถ้าคิดอย่างนั้นแล้วผมขอถามหน่อยเถอะว่า “คุณรัก แมนฯ ยูฯ หรือเปล่า”
สำหรับผมแล้วกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับว่าผมรักสุดใจขาดดิ้นเลย ถึงจะแพ้หรือชนะผมก็ยังตามเชียร์ต่อไป อย่างวันนี้เราแพ้ – – แพ้แล้วไงล่ะ?? วันอื่นเราก็ชนะ ถึงจะแพ้เราก็แพ้แบบสูสีในถิ่นคู่แข่งที่ใครๆ เขายกให้เป็น “เต็งหนึ่ง” เพราะฉะนั้นผมถือว่าผลการแข่งขันวันนี้เราเสมอตัวครับ แต่เอาไว้วันที่ 16 เมษายนปีหน้าเมื่อไหร่เถอะ (ถ้าไม่มีการเลื่อนนะ) เราจะเอาคืนอย่างสาสมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด!!! เป็นไปตามที่พูดไว้จะกระดกเพียวๆ หนึ่งจอกเลย ….. สาบานต่อหน้าโปสเตอร์ทีม แมนฯ ยูฯ ข้างหน้าเครื่องคอมฯ สิเอ้า!!
พ่อผมบอกว่าชนะแล้วได้อะไรขึ้นมา?? ความภูมิใจชั่วครั้งชั่วคราว – – ความรู้สึกที่ว่าข้าแน่ – – หรือว่าความรู้สึกแย่ๆ จากคนที่แพ้ …… ถ้าได้แต่เรื่องพวกนี้แล้วมันช่วยพัฒนาตัวเราเองหรือเปล่า?? ผมย้อนเอามาคิดถึงผลการแข่งขันวันนี้ สมมุติว่าเราชนะด้วยทีมที่ไม่ฟูลอย่างนี้แล้วมันจะดีมั้ย??
แน่นอนครับชัยชนะเหนือคู่แข่งใครๆ ก็อยากได้ แถมด้วยความรู้สึกฮึกเหิมลำพองใจที่เกิดกับพวกเราอีกล่ะ?? รับรองได้เลยว่ามันต้องเป็นความรู้สึกยิ่งใหญ่ทะลุจุดเดือด แต่เอาไว้วันไหนเราแพ้ทีมต่ำชั้นขึ้นมาสิครับ วันนั้นความรู้สึกนี้มันจะกลับมาแทงเราเอง บางคนอาจจะรับไม่ได้เหมือนกับที่คนแก่เขาเรียกว่าจมไม่ลงนั่นล่ะ เหมือนกับบางทีมที่ประกาศเหยงๆ อยู่ทุกฤดูกาลว่า “ปีนี้ทีมนกกระเด้าลมของเราจะกลับมายิ่งใหญ่”
ในทางกลับกันความผิดหวังในวันนี้มันจะสร้างความมุมานะให้เกิดขึ้นอย่างแรงกล้า อย่างน้อยก็กับป๋าเฟอร์กี้และก็เด็กในสังกัดนั่นล่ะ ปีที่แล้วเราได้แค่แชมป์ เอฟเอ คัพ (ที่บางทีมแถวเมอร์ซี่ ไซด์คิดว่ายิ่งใหญ่เสียเต็มประดา) นั่นถือว่าเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของป๋าเฟอร์กี้แล้ว แถมแมตช์เปิดฤดูกาลเป็นอย่างนี้ด้วย จังหวะนี้รมณ์บ่จอยแน่ๆ แล้วนิสัยอย่างป๋าเฟอร์กี้น่ะทำให้พอจะอนุมานได้เลยครับว่าแฟนบอลอย่างเราต้องได้เห็นอะไรที่เป็นการพัฒนาเหนือความคาดหมายจากคนจริงที่ชื่อ “อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”
ความง่วงเริ่มมารุมเร้าซะแล้วครับจังหวะนี้ ขอลาไปก่อนด้วยอารมณ์บาดเจ็บ (หัวใจ) เล็กน้อย พร้อมกับจิตใจที่ยังไม่ท้อถอยถึงแม้ว่าจะถูกพวกแฟนบอลใจต่ำทีมอื่นเยอะเย้ยในรุ่งเช้าของวันใหม่ตามลางสังหรณ์ แต่จะขอประกาศก้องตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปถึงแมนเชสเตอร์ แล้วเผือแผ่ไปที่ลอนดอนว่า “ปีนี้โทรฟี่พรีเมียร์ชิพจะกลับมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเฟ้ย!!!!”
Baki

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts